สำรวจต้นไม้ประจำห้องของเด็ก ๆ อนุบาล ๒

ในคาบแรกของการเรียนวิชาธรรมชาติของเด็ก ๆ อนุบาล ๒ หลังจากสวัสดีทักทายคุณครู ครูชวนเด็กพูดคุยถึงธรรมชาติรอบตัวและอากาศวันนี้

โดยครูน้ำอ้อยบอกว่าวันนี้ เราจะฝึกเป็นนักสำรวจธรรมชาติ และตั้งคำถาม ครูนำแผ่นภาพเครื่องมือนักสำรวจธรรมชาติออกมาพร้อมชวนเด็กคุยต่อว่า การเป็นนักสำรวจธรรมชาติจะมีเครื่องมือที่สำคัญคือ ตา หู จมูก ปาก มือ ขา สมองและหัวใจที่ใช้ได้อย่างดี เบียดเบียนธรรมชาติน้อยที่สุด

และในครั้งนี้ เราจะออกสำรวจหาไม้ประจำห้องอนุบาล ๒ คือ มะลิและกล้วยไม้ เด็ก ๆ เดินทางสำรวจพรรณไม้ไปจนทั่วบริเวณพบต้นมะลิ ๒ ต้นที่ข้างบ่อน้ำพุ ต้นมะลิเป็นพุ่มสูงพอๆกับตัวเด็ก มีลำต้นแยกออกเป็นหลายต้นจากรากเดียวกัน กิ่งยาวแยกออกเป็นก้านเล็กก้านน้อย แต่ละก้านมีใบรูปร่างกลมบ้างรีบ้าง ใบมีทั้งสีเขียวอ่อน สีเขียวแก่ หลายใบมีรอยกัดกิน มีดอกสีขาวเวลาบานกลีบเรียงสลับเป็นวงกลมส่งกลิ่นหอม เรียกว่ามะลิลา อีก ๑ ต้นเป็นไม้เลื้อยชื่อ มะลิวัลย์ อยู่ข้างสนามทราย
จากนั้นพบกล้วยไม้ที่เกาะติดอยู่กับต้นสาละ ออกดอกเรียงสลับกันหลายดอก กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง ข้างสนามทรายมีกล้วยไม้ดอกสีม่วงเกาะติดอยู่กับไม้ไผ่ ใบของกล้วยไม้สีเขียวเข้มเรียงซ้อนสลับกัน เห็นรากเป็นเส้นสีขาวปนเทาขดไปมา ครูเล่าให้เด็กฟังว่ากล้วยไม้ที่อยู่ตามธรรมชาติในป่าจะชอบกอดติดอยู่กับต้นไม้สูง กล้วยไม้มีดอกหลากหลายสีเมื่อออกดอกจะงดงามไปทั่วป่า

เราใช้เวลาเดินสำรวจ ชื่นชมธรรมชาติพอสมควรแล้ว ครูส่งสัญญาณให้รวมตัว นักสำรวจเก็บแว่นขยาย ล้างมือ นั่งพักดื่มน้ำ ครูนำรูปดอกมะลิ ดอกกล้วยไม้ ที่ถ่ายได้ในโรงเรียนติดให้นักสำรวจได้ดู และให้บันทึกการสำรวจไม้ประจำห้องด้วยดินสอ สีไม้ และระบายด้วยสีน้ำ เมื่อทุกคนบันทึกเสร็จเราชื่นชมผลงานของร่วมกันค่ะ